" "

เต้นออกกำลังกาย ผู้ที่เต้น ควรเตรียมความพร้อม หรือวอร์มร่างกายอย่างไร?

เต้นออกกำลังกาย ผู้ที่มีความต้องการ อยากจะออกกำลังกาย ด้วยการเต้น ไม่ว่าจะเป็นการเต้นชนิดไหน ก็ควรที่จะมีการ วอร์มร่างกาย ให้กล้ามเนื้อได้มีความยืนหยุ่นเสียก่อน เพื่อที่จะลดอาการบาดเจ็บ สามารถวอร์มด้วยท่าทางง่ายๆ อย่างเช่น การย่ำเท้าอยู่กับที่ การยกมือ การกางมือ ยืดเส้นยืดสายประมาณ 5-10 นาที เมื่อถึงช่วงที่เต้น จะเริ่มมรการออกท่าทาง ที่ยากขึ้น

เคลื่อนไหวเร็วขึ้น มักจะเป็นการทำทาเดิมซ้ำไปประมาณ 10 รอบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่จะมีการ เปลี่ยนเป็นท่าใหม่ สำหรับการเต้นแอโรบิกนั้น มักจะมีท่าพื้นฐาน ที่ทุกๆคนน่าจะรู้จัก และมักจะนำไปประกอบการเต้นอยู่เสมอ มาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเต้น

ก่อนที่จะสิ้นสุดการเต้น จะต้องมีการคลายกล้ามเนื้อ หลังจากที่เต้นกันอย่างสนุกสนานกันแล้ว จะต้องยืดเส้นยืดสายอันอีกครั้ง เพื่อลดอาการปวดเมื่อย อย่าลืมที่จะวอร์มร่างกาย ออกออกกำลังกายทุกๆครั้ง ในส่วนของรูปแบบ

และวิธีการเต้นออกกำลังกายแบบไหน ที่ได้รับความนิยม และช่วยเผาผลาญไขมันของทุกๆท่าน ได้ดีที่สุด ไปติดตามพร้อมๆกัน

เต้นออกกำลังกาย

เต้นออกกำลังกาย ที่จะช่วยทำให้เบิร์นไขมันได้เร็วที่สุด จะเป็นแบบไหน?

สำหรับท่วงท่า หรือการเต้นแนวไหน แบบใด ที่จะช่วยให้ผู้เต้น สามารถเผาผลาญไขมันในร่างกาย ได้มากที่สุด เริ่มกันที่การเต้นแบบแรกเลยอย่าง การเต้นซุมบ้า นี่คือการเต้นนรูปแบของ จังหวะการเต้นแบบลาตินอเมริกา จะเน้นไปที่ จังหวะการเต้นแบบช้าและเร็ว

สลับกันไป มีท่าเต้นที่ไม่ซับซ้อน สามารถเผาผลาญได้กี กว่าแอโรบิกทั่วไปก็ตรงที่ว่า ผู้เต้นเอง จะรู้สึกสนุกกับการเต้น มากกว่าการออกกำลังกายทั่วไป และไม่จำเป็น ที่จะต้องมีทักษะในเรื่องของการเต้นมาก่อน ก็สามารถที่จะเต้นได้ สำหรับการเต้นซุมบ้าเป็นเวลา

60 นาที จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 370 แคลอรีเลยทีเดียว ต่อมาก็คือ การเต้นPole Dance การเต้นแนวนี้จะต้องใช้พลังงาน และการออกแรง ที่เยอะมากๆ เป็นการเต้นออกกำลังกายในแนวเซ็กซี่ จะต้องาำการฝึกหลายครั้ง จึงจะสามารถเต้นได้

แต่รูปแบบนี้จะทำให้ กล้ามเนื้อของร่างกาย มีความอดทนและยืดหยุ่นสูง การเต้นรูปแบบนี้เ็นเวลา 1 ชั่วโมงจะทำให้เผาผลาญได้ถึง 250-500 แคลอรีนั่นเอง ต่อมาเลยก็คือ การเต้นฮิปฮอป ถือเป็นการออกกำลังชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมสูงมาก

ในหมู่ของนักเต้นแนวสตรีทแดนซ์ เริ่มมาจากในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการเต้นที่ดูแข็งแรง และทรงพลัง สามารถที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย ได้แทบจะทุกสัดส่วน เหมาะอย่างยิ่ง กบผู้ที่ต้องการ อยากจะลดน้ำหนักแบบจริงๆจังๆ เพราะลดได้ถึง 600 แคลฯเลยทีเดียว

เต้นออกกำลังกาย แบ่งออกเป็นการเต้นกี่รูปแบบ?

เราจะยังคง เจาะลึกลงไปที่ รูปแบบการเต้นแนวแอโรบิก เพราะการเต้นแนวนี้ สามารถที่จะแบ่งรูปแบบ ชองการเต้นออกไปได้ถึง 4 ประเภทเลยทีเดียว เริ่มกันที่รูปแบบแรก นั่นก็คือ การเต้นในรูปแบบที่เป็น แนวแรงกระแทกต่ำ หรือที่คุ้นเคยกันในพวก

รำไทเก็ก ของคนสูงอายุ เพราะจะเป็นการออกกำลังแบบ เคลื่อนไหวแบบเบาๆ แค่ย่อเข่าลง หรือสปริงข้อเท้า ก็เพียงเท่านั้น การเต้นหรืออกกำลัง ในลักษณะนี้ ช่วยให้ ลดอัตราของรอาการบาดเจ็บ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ประเภทที่สองก็คือ

การเต้นออกกำลังที่มีแรงกระแทกสูง ในรูปแบบที่สองนี้ จะเป็นการเต้นในแนวของ จังหวะที่เริ่มมีความมันส์ ความสนุก และจังหวะรุนแรงขึ้น จะไม่มีความต๊ะต่อนยอน เหมือนในรูปแบบแรก การเต้นในรูปแบบนี้ก็คือนข้างที่จะ เน้นไปที่การออกแรงของร่ายกาย

เพื่อให้ไปกระทบกับพื้น อย่างเช่นการกระโดดเป็นต้น รูปแบบที่สาม ก็จะเริ่มมีความรุนแรง ที่ร่างกายจะต้องมีการปะทะ ในท่วงท่าของความเคลื่อนไหว จะมีการสลับไปมา ของความหนักเบา ตามจังหวะของเพลง และสุดท้าย ประเภทที่สี่ รูปแบบนี้หากตะ

เรียกได้ว่าได้รับความนิยม และได้รับการตอบรับที่สุด ก็เห็นว่าจะใช่ เพราะเป็นการเต้นแบบสบายๆ ไม่ต้องกระแทกกับอะไรทั้งนั้น อย่างเช่นพวก การออกกำลังกายในน้ำ การเต้นออกกำลังกายในน้ำ นั่นเอง

เต้นออกกำลังกาย

ทำไมการเต้นออกกำลังกาย จึงได้รับความนิยมในบรรดาสายเฮลตี้ หรือคนรักสุขภาพ

สงสัยกันใช่ไหมว่า เพราะอะไรการเต้นออกกำลังกาย ถึงมาได้รับความนิยมกันอย่างมาก ในช่วงนี้ ก็บอกเลยว่า การเต้นเพื่อออกกำลังกาย ไม่ใช่ว่า จะพึ่งมาได้รับความนิยม เพราะเราอาจจะเคยได้ยิน การเต้นแอโรบิกมาตั้งแต่อดีต หรือตั้งแต่สมัยที่เราเป็นเด็ก

แต่ทำไมในสมัยนี้ มีรูปแบบการเต้นออกกำลัง ที่ค่อนข้างหลากหลาย ให้เหล่าบรรดา หนุ่มๆสาวๆที่รักสุขภาพ เลือกเต้นกัน ข้อแรกเลยก็คือ ที่คนชอบเข้าคลาสเต้นกัน ก็เพราะว่า ได้มีเพื่อน สามารถที่จะชวนเพื่อไปด้วย บางคนเลือกที่จะออกกำลังกาย

เพราะเพื่อนนี่แหล่ะ เพราะการที่มีเพื่อนไปออกกำลังกาย ด้วยกันเป็นประจำ มักจะช่วยให้เราสามารถ ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ มากกว่าการไปออกกำลังกายคนเดียว เพราะหากว่าเราขี้เกียจ ก็คงจะหยุดเองไปเลยเสียดื้อๆ อีกหนึ่งเหตุผล

ที่ทำให้คนหันมาเต้นออกกำลังกาย เป็นเพราะว่า เบื่อที่จะออกกำลัง ในรูปแบบเดิมๆ น้อยคนนัก ที่จะชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง ดังนั้นแล้ว การเต้นนี่แหล่ะ จึงเป็นการออกกำลังที่สำคัญ นอกเหนือจากสุขภาพดี ที่เราจะได้รับแล้ว ก็คือเรื่องของความสนุก

ปฎิเสธไม่ได้เลย ว่าการเต้น แม้จะไม่ใช่การเต้นเพื่อออกกำลัง ช่วยทำให้ผู้เต้น เกิดความสนุกสาน และการเต้นออกกำลังกาบในสมัยนี้ แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง มีแนวเพลงที่สนุก และหลากหลาย จึงไม่ใช่เรื่อง ที่น่าเบื่ออีกต่อไป

ข้อดีของการเต้นออกกำลัยกาย คืออะไรบ้าง

คงไม่ต้องบอกว่า การเต้นออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณมีสุขภาพ ที่ดีและเข็งแรงขึ้น แต่นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่คุณจะได้รับ นั่นก็คือ การคลายเครียด รู้ไหมว่า การเต้นไม่ว่าจะเป็น การเต้นซุมบ้า แอโรบิคหรืออื่นๆ ช่วยให้ผู้เต้น มีความรู้สึกที่ดีขึ้น เรื่องนี้

ไม่ไช่ว่าพูดกันขึ้นมาลอยๆ เพราะว่าได้มีงานวิจัย ที่ถูกตีพิมพ์ และเผยแพร่ใน Journal of Applied Gerontology อีกทั้งยังช่วยลดอาการซึมเศร้า ได้ดีอีกด้วย และแน่นอนว่า มีงานวิจัยรองรับเช่นเคย ว่าได้มีการทดสอบ ว่าได้ให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า

เข้าร่วมกลุ่ม ในการเต้น Upbeat ก็พบว่าผู้ป่วย มีอาการซึมเศร้าที่น้อยลงจริงๆ และมีชีวตชีวาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังช่วยให้ความจำดีขึ้น ป้องกันภาวะของโรคสมองเสื่อม มีการวิจัยด้วยว่า การเต้นแอโรบิคนั้น ช่วยให้สมองที่อยู่ใน ส่วนควบคุมความจำ

ทำงานได้ดี ทั้งนี้ การเต้นในทุกๆสัปดาห์ ทำให้ร่างกายของเรานั้น กระปรี้กระเปร่า สวรรถภวพของร่างกาย ก็ดีขึ้นอีกด้วย หากใครที่กำลังหมดไฟ และรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าจะออกกำลังกายอะไรดี จะวิ่งก็กลัวเหนื่อย ไม่อยากออกไปข้างนอก ไหนจะมลภาวะต่างๆ

บอกเลยว่า การออกกำลังกายด้วยการเต้นนี่ล่ะ ที่ตอบโจทย์สุดๆ คุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ร่างกายมีความ กระฉับกระเฉงมากขึ้น ทั้งในแง่ของการทรงตัว และเคลื่อนไหวร่างกายได้ทีทุกส่วน ที่สำคัญ ยังช่วยลดน้ำหนักได้ดีสุดๆ สาวๆหนุ่มๆ

เมื่อได้ฟังเช่นนี้แล้ว คงต้องหาดูแล้วล่ะว่า การเต้นแบบไหนที่สนุก และเหมาะกับความชื่นชอบ เริ่มเลยว่านี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกๆท่าน

รวมหนังสุดล้ำ

เล่นโยคะ