" "

ออกกำลังกายเพื่อ หลายคนรู้ดีว่าการออกกำลังกาย ช่วยในเรื่องของสุขภาพที่ดี แต่มีวิธีการออกกำลังกายกี่วิธี?

ออกกำลังกายเพื่อ เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย ต้องบอกเลยว่า ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน การออกกำลังกาย ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ มีการพูดถึง และมีวิธีการออกกำลังกาย ที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นแล้ว หากใครที่กำลังคิดอยู่ว่า เป็นคนที่ไม่ชอบวิ่ง ไม่ชอบออกกำลังหายหนักๆ แล้วมันจะมี วิธีออกกำลังกายปบบไหนบ้าง ที่เหมาะสมกับตัวเอง มาดูและติดตามไปพร้อมๆกัน

  1. การกายบริการทั่วไป

ต้องบอกเลยว่า สำหรับวิธีนี้เป็น วิธีการออกกำลังกายง่ายๆ ที่ใครหลายคน คงจะคุ้นเคยกันมา ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลเลยก็ว่าได้ คุณครูมักจะพาเด็กๆ ออกกำลังด้วยการกายบริการ เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ บอกเลยว่าวิธีการนี้ ใช้ได้ตั้งแต่วัยเด็ก ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่เลยทีเดียว อย่างเพลงที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆที่ว่า “ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ ชูมือขึ้นโบกไปมา กางแขนขึ้นและลง พับแขนมือแตะไหล่” เพลงนี้นับว่าเป็น เพลงที่ใช้ในการกายบริหารแบบเบื้องต้นนั่นเอง

  1. การเดินเพื่อสุขภาพ

เอาล่ะ สำหรับใครที่ไม่ชอบวิ่ง ลองเปลี่ยนมาเดินเพื่อสุขภาพแทน ใครบอกว่าการเดิน ไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย คุณคิดผิด เพราะการเดินมีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้เรา สามารถฝึกในเรื่องของ ระบบทางเดินหายใจ และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว

  1. การเต้นแอโรบิค

นี่คือกิจกรรม การออกกำลังกายยอดนิยม ที่คนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มๆหรือสาวๆเลยทีเดียว เนื่องจากว่าการออกกำลังกายรูปแบบของแอโรบิค สามารถที่จะทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ที่ไหน เพราะเพียงแค่เปิดยูทูป ก็มีคลิปวิดีโอการสอนเต้นแอโรบิคมากมาย ให้เราได้ฝึกเต้น ฝึกออกกำลังตาม แถมยังเป็นการออกกำลังกายแบบสนุกๆอีกด้วย

ออกกำลังกายเพื่อ

ออกกำลังกายเพื่อ ให้มีรูปร่างที่ดี ต้องออกกำลังกายอย่างไร?

นอกเหนือจากสุขภาพ และความแข็งแรง ที่ทุกๆคนต้องการแล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่จะไม่พูดถึง ก็คงไม่ได้เลย นั่นก็คือ การออกกำลังกายเพื่อทำให้เรา มีรูปร่างที่ดี มีหุ่นที่เพอร์เฟค นับว่าเป็นสิ่งที่ หนุ่มๆสาวๆต้องการเลยก็ว่าได้ ยิ่งในปัจจุบันนี้

เทรนด์การออกกำลังกาย ที่เน้นในเรื่องของ การเล่นหน้าท้อง สาวๆคนไหนที่มีซิกแพคเบาๆที่หน้าท้อง สาวๆคนนั้นจะดูเป็น คนที่เซ็กซี่ และรักสุขภาพขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้นแล้ วิธีการ ออกกำลังกายสร้างซิกแพค ที่ทำได้ทั้งชายและหญิง ก็จะมีกระบวนท่าง่ายๆ

ซึ่งเราได้หยิบยก และนำเอามาแนะนำให้ทุกๆคน ได้นำท่าทางเหล่านี้ ไปปฏิบัติตามกันได้ เริ่มกันที่ท่าแรก มีชื่อว่าท่า Crunch วิธีการสำหรับ การทำท่านี้ก็ง่ายแสนง่าย ก็เพียงแค่ ทำท่านอนหงาย จากนั้นงอแขนทั้งสองข้าง จากนั้นประสานมือไว้ที่ท้ายทอย

แล้วทำการเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อ ส่วนหน้าท้อง แล้วทำการยกลำตัว และทำการยกเข่าขึ้นราวๆ 90 องศา ให้คล้ายกับการชันเข่า จากนั้นทำท่าคล้ายซิทอัพ คือยกลำตัวส่วนบนขึ้นลง ทำติดต่อกันจำนวน 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง และท่าต่อมาก็คือท่า V-Sit

เป็นอีกหนึ่งท่าที่ช่วยทำให้ ช่วงสร้างซิกแพคได้ดีเลยทีเดียว เริ่มต้นกันที่การ เตรียมอยู่ในท่านั่ง เหยียดขาไปด้านหน้า วางมือไว้ที่บริเวณท้ายทอย (ทำมือประสานกัน) จากนั้นเอนตัวไปทางด้านหลังเล็กน้อย เหยียดขาให้ตรง และชิดกัน จากนั้นยกเข่า

ขึ้นมาให้ใกล้กับ บริเวณหน้าออกมากที่สุด โดยสลับกันระหว่างเข้าแต่ละข้าง ค่อยๆทำ และไม่ควรที่จะเร็วจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บได้ ทำติดตาอกันราวๆ 2-3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง

ออกกำลังกายเพื่อ ให้เหมาะสมกับช่วงอายุในแต่ละวัย 

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด จึงควรที่จะ เลือกออกกำลังกานให้เหมาะสม กับในช่วงวัย และช่วงอายุนั่นเอง ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า ในแต่ละช่วงอายุ ควรที่จะเลือกออกกำลังกายแบบไหน เริ่มต้นกันที่ ในช่วงอายุวัยเด็กไม่เกิน 10 ปี

เด็กในวัยนี้ควรที่จะ เน้นในเรื่องของ การออกกำลังกายเพื่อ เสริมสร้างพัฒนาการเป็นหลัก เพื่อที่ว่า จะฝึกในเรื่องของ กล้ามเนื้อมัดต่างๆ เน้นในการออกกำลังกายแบบเบาๆ ไม่หนัก อย่างเช่น การวิ่งเล่น การกายบริหารตามเพลง การปีนไต่ เป็นต้น

มาดูในวัยก่อนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น คือช่วงอายุ 11-14 ปี ควรที่จะออกกำลังกายเพื่อฝึกความคล่องแคล่ว อย่างเช่นการเล่นปิงปอง ฟุตบอล แชร์บอล หรือการขี่จักรยาน และว่ายน้ำเป็นต้น ไม่ควรที่จะออกกำลังกายในรูปแบบที่ผาดโผนจนเกินไป อย่างเช่นว่าการกระโดด

จนทำให้กระดูกกระแทกรุนแรง เพราะในช่วงวัยนี้ อยู่ในช่วงที่กำลังจะเจริญเติบโตได้เต็มที่ ช่วงอายุต่อมาคือวัยรุ่น ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถที่จะออกกำลังกายได้ทุกชนิด เพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนช่วงอายุที่เริ่มจะเข้าสู่วัยกลางคน

ช่วงนี้กล้ามเนื้ออาจจะไม่แข็งแรงเท่าวัยรุ่น จึงควรออกกำลังกายแบบเบาๆ วิ่งเหยาะๆ เดินเร็ว ส่วนในช่วงวัยผู้สูงอายุ ควรที่จะกายบริการท่าง่ายๆอย่าง การเล่นโนคะ รำมวยจีน เพื่อฝึกให้ร่างกายได้กระฉับกระเฉง และนี่ก็คือ ท่าออกกำลังกายง่ายๆ ในแต่ละช่วงอายุ

ออกกำลังกายเพื่อ

ออกกำลังกายในช่วงเวลาไหน ถึงจะดีที่สุด?

มีผู้เชี่ยวชาญและ มีนักวิชาการหลายแขนง ได้กล่าวถึง ช่วงเวลาในการออกกำลังกาย ไว้ว่า หากคุณต้องการ ที่จะออกกำลังกายแล้ว ทำให้ร่างกายเรานั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็คือจะต้อง เลือกเวลาในการออกกำลังกายให้เหมาะสม และต้องดูด้วยว่า

วัตถุประสงค์ในการออกกำลังกาย ของแต่ละคนเป็นอย่างไร บางคนต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ บางคนต้องการลดน้ำหนัก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าระยะเวลาไหนจึงจะดีที่สุด เริ่มต้นกันที่ การออกกำลังกายตอนเช้า ช่วงเวลานี้ เหมาะสมที่สุด

ที่จะช่วยให้ร่างกาย ได้เผาผลาญในด้านของ พลังงานอย่าง คาร์โบไฮเดรต จากอาหารเย็นมื้อที่ผ่านมา ถูกดึงมาใช้เป็นพลังงาน จนทำให้เราสามารถที่จะ เผาผลาญแคลอรี่ได้ง่ายๆ การออกกำลังในตอนเช้ายังช่วยให้ ร่างกายของเรากระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

ประโยชน์ในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับคนที่กำลัง อยากจะหันมา ให้ความสนใจและ ใส่ใจในการ ออกกำลังการเพื่อสุขภาพ บอกเลยว่า ปัจจุบันนีมี วิธีการออกกำลังกาย ที่ค่อนข้างจะหลากหลาย ให้คุณได้เลือกทำ กิจกรรมต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา ล้วยแล้วแต่ เป็นการขยับเยื้อน เพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย

และทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ง่ายๆ การที่เราจะมีร่างกาย ที่สมบูรณ์และแข็งแรงนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างที่หลายๆคนคิดเลย การออกกำลังกายเป็นประจำ ทุกๆวันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่จำเป็น ว่าจะต้องออกกำลังอย่างหนักหน่วง เพียงแค่เรา

มีวินัยและหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในรูปแบบของ การวิ่งจ็อกกิ้งกลางแจ้ง หรือการวิ่งในลู่วิ่งไฟฟ้า การเต้นแอโรบิค หรือโยคะ การกายบริหารเป็นประจำ ก็เป็นหนึ่งในการออกกำลังที่ทำให้ กล้ามเนื้อของเรา เกิดการจดจำในท่ากายบริหารเหล่านี้

ข้อดีก็คือว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยในเรื่องของ ระบบหมุนเวียนโลหิตภายในร่างกาย หากจะพูดกันง่ายๆเลยก็คือ จะทำให้เลือด ไหลไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น นั่นจึงส่งผลให้ เรามีความคิดที่แจ่มใส แถมยังสดชื่น อวัยวะต่างๆอย่างเช่น

ปอด หัวใจ ก็พลอยแข็งแรงไปด้วย เมื่อเส้นเลือดมีการเคลื่อนตัวสม่ำเสมอก็จะทำให้ มีเส้นเลือดขนาดที่ใหญ่ขึ้น ก็จะลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิด เส้นเลือดอุดตันได้น้อยลงนั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะคนในยุคสมัยนี้ หรือยุคสมัยไหน กำลังประสบปัญหาอยู่

นั่นก็คือภาวะเครียดและซึมเศร้า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยในเรื่องนี้ๆด้ดีพอสมควร เพราะในชั่วขณะหนึ่ง เราจะโฟกัสไปที่ร่างกาย และเรื่องของกายเคลื่อนไหว จนทำให้เราลืมเรื่องที่คิดอยู่ในใจไปชั่วขณะ จึงทำให้อาการดังกล่าว

สามารถหายขาดได้นั่นเอง มีงานวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าการออกกำลังกายช่วยในเรื่องของ หารเกิดภาวะซึมเศร้าและโรคเครียดได้จริง อย่างไรก็ตามแต่ ทุกๆคนรู้ดีว่า การออกกำลังกายส่งผลกีต่อสุขภาพของเรามากแค่ไหน อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพด้วยการ หมั่นออกกำลังกายกันนะทุกๆคน

การดูแลสุขภาพ

หนังแอคชั่นต่อสู้